วันพุธที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เสื้อแดง มันยกมาอ้าง

เสื้อแดง มันยกมาอ้าง


เฮ้ย เหม็นแล้วว่ะ

ทั้งสัปดาห์ นิติภูมิได้สำรวจตรวจทัศนคติคนไทยในกรุงเทพฯ-จันทบุรี-สระแก้ว-ชลบุรี-หนองคาย-อุดรธานี เพราะผมต้องเดินสายไปปราศรัยทุกวัน

จนถึงราตรีของอังคารวานนี้ สายการบินเอธิโอเปีย เที่ยวบินที่ ET 609 พาผมบินมายังกรุงแอดดิสอาบาบา สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเอธิโอเปีย
ขณะที่ผู้อ่านท่านจับไทยรัฐฉบับนี้ นิติภูมิกำลังประชุมกับหน่วยงานส่งเสริมการลงทุนเอธิโอเปีย โดยร่วมกับคณะของบีโอไอไทย ซึ่งประกอบด้วย นางวาสนา มุฑุตานนท์ ทปษ.ด้านการลงทุน, นางสาวรัตนวิมล นารี ศุกรีเขตร นายภาคภูมิ บูรณบุณย์ นางสาวสรัลลักษณ์ สายสุริยา และนายเผด็จ แก้วเรือง

ขณะนี้ มีจดหมายจากผู้อ่านค้างอยู่ใน nitipoom@gmail.com นับร้อยเป็นพันฉบับ สถานการณ์อย่างนี้ไม่เคยมีมาก่อน กรณีที่ผู้อ่านท่าน "อิน" กับข้อเขียนจนต้องมีจดหมายมา "ด่า" หรือ "ชม" ผม เป็นจำนวนมาก

ไม่ใช่แค่แต่เฉพาะคอลัมน์ของนิติภูมิเท่านั้น แม้แต่ข่าวปกติของสื่อฝรั่ง ก็ยังมีคนแห่เข้าไปโพสต์ข้อความคำวิจารณ์กันเพียบ

คืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ผมเข้าไปที่ www.yahoo.com เพื่ออ่านเรื่องสถานการณ์ในกรุงเทพฯ เพียงข่าวเดียวมีผู้อ่านเข้าไปโพสต์กันมากถึง 7,613 คอมเมนต์ มีการวิจารณ์บุคคลที่เราชาวไทยรักเคารพหวงแหน เรื่องนี้ต้องฝากคนไทยที่ภาษาอังกฤษดี ช่วยกันอธิบายเรื่องไม่จริงให้ชาวต่างชาติทราบ หลายข้อความ ผมสังหรณ์ว่าน่าจะมาจากประเทศคู่แข่ง ซึ่งถนัดจัดเจนในการโจมตีเราทุกทีที่มีปัญหา

วลีและประโยคจากข่าวที่ผมขอนำเอามาเล่าต่อก็เช่น A country divided into two classes, the elite rich and the peasant farmers. ประเทศที่แบ่งออกเป็นสองชนชั้น ชนชั้นสูงที่ร่ำรวย และผู้คนชนชั้นรากหญ้ายากจน

ในโลกไซเบอร์ ผู้คนเห็นใจฝ่ายเสื้อแดงมากกว่ารัฐบาล ดูได้จากคอมเมนต์อย่าง Pray for the common people in the movement. ช่วยกันสวดอ้อนวอนให้ผู้คนชนชั้นรากหญ้าในการประท้วงด้วยเถิด

แม้แต่ผู้คนตามชนบทของประเทศต่างๆ เดี๋ยวนี้มีอินเตอร์เน็ตใช้กันเป็นจำนวนไม่น้อยแล้ว ในอินเตอร์เน็ต ฝ่ายเสื้อแดงได้รับกำลังใจจากคนที่ถูกกดขี่ทั่วโลก ผู้คนบนโลกส่วนใหญ่เข้าใจว่าการต่อสู้ในกรุงเทพฯ เป็นการสู้กันระหว่างผู้ปกครองและผู้ถูกปกครอง Those who want to rule and those being ruled over.
คำอธิบายใต้รูปของสื่อบางฉบับ อธิบายภาพการต่อสู้ว่า The class war in Thailand. สงครามชนชั้นในประเทศไทย
คนหนึ่งซึ่งผมเดาว่าน่าจะมีภูมิหลังทางศาสนา โพสต์ข้อความว่า "ประเทศแถบนี้ยังไม่มีศาสนา เราต้อง introduce หรือนำศาสนาไปให้พวกเขา ข้าพเจ้าเคยเดินทางไปประเทศไทยกับครอบครัว เจอแต่เซ็กซ์ ยาเสพติด และความไม่มีวัฒนธรรมประเพณีในเมืองท่องเที่ยว" ไอ้คนนี้นี่ก็เขียนข้อความตำหนิเราเกินความจริง

ราตรีวันจันทร์ที่ผ่านมาเหมือนกัน ผมเข้าไปดูข่าวใน Australian Network News ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลออสเตรเลีย สถานีนี้แพร่ภาพเรื่อง Bangkok's war หรือสงครามในกรุงเทพฯ นักวิเคราะห์เอาภาพและเรื่องของนักข่าวสาวชาวออสเตรเลียที่มีชื่อว่าโซวี แดเนียล มาออกอากาศ ผู้ชมทั่วโลกเชื่อนางแดเนียลกันมาก เพราะเธอเข้าไปใช้ชีวิตคลุกคลีตีโมงอยู่กับกลุ่มเสื้อแดง ในภาพข่าว เราจะเห็นชาวบ้านถูกยิง เป็นภาพทหารลั่นกระสุน นิติภูมิเป็นคนเทียวไปในโลกเพื่อทำสารคดี ขอเรียนว่า มุมกล้องของภาพที่กระจัดพลัดพรายแพร่หลายอยู่ในสื่อทั่วโลกขณะนี้ ไม่เคยปรากฏในสงครามที่อื่นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นภาพจากสงครามอิรัก หรือในอัฟกานิสถาน

ได้เห็นภาพเหล่านี้แพร่ขยายกระจายออกไปสู่สายตาชาวโลก และได้อ่านคอมเมนต์จากผู้คนบนโลกทั้งใบ ขอเรียนเลยนะครับว่า บัดนี้ คนทั้งโลกขยะแขยงคนที่เป็นผู้นำของเรา ผิวหนังของคณะผู้นำไทยเริ่มเป็นโรคคล้ายเชื้อราตั้งแต่ใบหน้า คอ ลำตัว หัว แขน และขา คนบนโลกอินเตอร์เน็ตเริ่มมองเห็นตุ่มแดงๆ ที่คอของท่าน แรกๆ ก็เป็นไม่เท่าไรดอก แต่ตอนนี้เริ่มมีขอบนูน มีตุ่มน้ำใสเล็กๆ อยู่รอบวง
ฝรั่งเริ่มพูดกันว่า พวกท่านเป็น Ring worm หรือ Tinea

ส่วนคนไทยเราก็เรียกโรคนี้แตกต่างกันตามบริเวณที่เป็น ถ้ามีเชื้อราที่ใบหน้า คอ ลำตัว หัว แขน และขา ก็เรียกว่า ขี้กลาก
ถ้าเป็นที่ขาหนีบ เราเรียกว่า สังคัง

นายทหารท่านหนึ่งซึ่งโผล่ออกมาหน้าจอโทรทัศน์บ่อยๆ ขณะนี้โดนขี้กลากลามปามจนถึงง่ามก้น ท่านลองเอากระจกวางบนพื้น แล้วค่อยๆ นั่งยองๆ ส่องสำรวจ จะพบว่าผิวท่านขาวคันเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งซีกทั้งสองแก้มก้นแล้วนะครับ

อาจารย์มหาวิทยาลัยคนหนึ่งซึ่งประกาศตนว่าจะเป็นคนล้างพวกรากหญ้า เดี๋ยวนี้ ฝรั่งมองว่า ท่านมีเชื้อราที่ง่ามนิ้วเท้า โรคนี้ไอ้ปื๊ดลูกของเจ้น้องก้นซอยสองมันเรียกว่า ฮ่องกงฟุต ขณะนี้ ท่านอาจารย์น่ะ เป็นจนผิวจะสุกทุกง่ามนิ้วแล้ว

เมื่อก่อนตอนที่ยังมีการเจรจาระหว่างหัวหน้ารัฐบาลกะแกนนำเสื้อแดง อาการของอาจารย์เป็นแค่ขุยๆ ยังไม่เหม็น ฝรั่งก็ยังสังเกตไม่เห็น

หลังจากที่ประชาชนผู้คนล้มตายไปเยอะแยะ ผิวตามง่ามเท้าของท่านเริ่มแตกเป็นร่อง มีน้ำเยิ้ม แถมมีกลิ่นเหม็นโชยออกมาทางหน้าจอโทรทัศน์ด้วย

ขณะนี้ ผมได้ยินผู้คนทั้งโลกวิจารณ์คณะของท่านว่า...



"เฮ้ย เหม็นแล้วว่ะ!".



นิติภูมิ นวรัตน์

จากคอลัมน์ เปิดฟ้าส่องโลก

ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น